เพราะอะไรงานตัดแบบไดคัทป้องกันสินค้าโดนก๊อปปี้จนต้อง ปริ้นฉลากสินค้า
ถ้าพูดถึงงานตัดแบบไดคัท งานตัดที่ว่าและค่อนข้างเป็นที่นิยมได้แก่ งานตัด Die Cut Sticker 50 และ Die Cut Sticker 100 จะเป็นการตัดที่สถานประกอบการทุกแห่งต้องสั่ง โรงพิมพ์ฉลากสินค้าแบบม้วน ผลิต sticker แล้วถึงค่อยนำมาติดบรรจุภัณฑ์ ถามว่า เหตุใด ร้านพิมพ์สติ๊กเกอร์ ถึงเลือกการตัดดังกล่าวเวลาจะผลิต สติ๊กเกอร์ติดกระปุกครีม ? เดี๋ยวแอดมินหาคำตอบให้ แล้วจะรู้ว่า ทำไมการตัดแบบไดคัท ถึงป้องกันสินค้าโดนก๊อปปี้จนสถานประกอบการทุกแห่งต้องสั่งทำ สติกเกอร์ติดกระปุก
- การออกแบบสติกเกอร์ การตัดแบบไดคัท เกิดมาจาก ความต้องการส่วนตัวของผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการนำ ฉลากกระปุกน้ำพริก ที่มีความแตกต่าง จากนั้น นำมาติดกระปุก เพราะเชื่อว่า ความแตกต่างไม่ซ้ำใครสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าในกระปุกได้ไม่ยาก ดังนั้น ก็ต้องยกหน้าที่นี้ให้ร้านสติกเกอร์ ดำเนินการออกแบบสติกเกอร์ จากนั้น ส่งร่างแบบฉลากหรือโลโก้มาให้เจ้าของสินค้าตรวจสอบว่า ตรงกับความต้องการหรือเปล่า ? ซึ่งถ้าตรวจดูแล้วเห็นว่า ค่อนข้างตรงกับความต้องการ เห็นแล้วรู้สึกพอใจ ก็นำมา ติดกระปุกขนม ทำให้กระปุกขนมดูมีมูลค่า ใครเห็นก็อยากซื้อ อีกทั้ง ความเฉพาะตัวของฉลากรวมถึงเลือกวัสดุที่ป้องกันสินค้าโดนก๊อปปี้ จะทำให้ไม่มีใครลอกเลียนแบบสินค้าของผู้ผลิตสินค้าได้อีกเลย
- ร้องเรียนได้ กรณีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น สินค้าโดนลอกเลียนแบบไปแล้ว ข้อดีอีกประการของสินค้ามีฉลากนั่นก็คือ เราสามารถร้องเรียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ว่า มีการลอกเลียนแบบสินค้า เดี๋ยวทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจะตรวจสอบให้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของการ พิมพ์ฉลากสินค้า ทั้งนี้เพราะบนฉลาก จะมีข้อมูลในส่วนของเครื่องหมายรับรองที่ออกโดย อย. หรือ สคบ. อยู่บน สติ๊กเกอร์ติดสินค้า และเมื่อทาง สคบ.ได้ตรวจสอบข้อมูลบนโลโก้สติ๊กเกอร์สินค้า ทำให้สินค้าได้รับการคุ้มครองทันที ส่งผลในเรื่องของความยากที่บุคคลอื่นจะมาก๊อปปี้สินค้าของผู้ผลิต